งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 96


ผู้มีส่วนร่วมกับโครงการวิกิมีเดีย

Article Images

พิธีมอบรางวัลในวงการภาพยนตร์สหรัฐ จัดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 2024

งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 96 โดย สถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์ (AMPAS) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2024 ที่ โรงละครดอลบี ใน ฮอลลีวูด ลอสแอนเจลิส [1] AMPAS ได้มอบรางวัลของสถาบันฯ (โดยทั่วไปเรียกว่ารางวัลออสการ์) ใน 23 สาขาเพื่อเป็นเกียรติแก่ภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี 2023 พิธีการซึ่งถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกาโดย เอบีซี[2] นักแสดงตลก จิมมี คิมเมล เป็นพิธีกรรายการนี้เป็นครั้งที่ 4 ต่อจาก พิธีครั้งที่ 89 ในปี 2017, พิธีครั้งที่ 90 ในปี 2018 และ พิธีครั้งที่ 95 ในปี 2023 [3]

งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 96 96th
Official poster for the 96th Academy Awards

Official poster

วันที่March 10, 2024
สถานที่โรงละครดอลบี
ลอสแอนเจลิส
ดำเนินรายการโดยจิมมี คิมเมล
เหตุการณ์สำคัญ
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออปเพนไฮเมอร์
ได้รางวัลมากที่สุดออปเพนไฮเมอร์ (7)
เข้าชิงมากที่สุดออปเพนไฮเมอร์ (13)
โทรทัศน์
เครือข่ายเอบีซี / ABC.com / ABC app
ความยาว3 ชั่วโมง 23 นาที
  • ← ครั้งที่ 95
  • Academy Awards
  • ครั้งที่ 97 →

ออปเพนไฮเมอร์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 13 รางวัล[4] [5] [6] และคว้ารางวัลมากที่สุดในงาน โดยได้รับ 7 รางวัล รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม[7]

ผู้ชนะและผู้ได้รับการเสนอชื่อ

แก้

การประกาศผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 96 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มกราคม ค.ศ. 2024 ที่โรงละครซามูเอล โกลด์วิน ในเบเวอร์ลีฮิลส์ [1] [8] [9] มีการประกาศรายชื่อผู้ชนะระหว่างพิธีมอบรางวัลในวันที่ 10 มีนาคม ปีเดียวกัน[1]

ปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม "บาร์เบนไฮเมอร์" ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงทั้งหมด 21 รางวัล (8 รางวัลสำหรับ บาร์บี้ และ 13 รางวัลสำหรับ ออปเพนไฮเมอร์ ) ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องมีชื่อเสนอเข้าชิงร่วมกันในหกสาขา รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยม [5] [10] [11]

ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงที่โดดเด่นหลายคน ได้แก่ สตีเวน สปีลเบิร์ก ซึ่งเพิ่มสถิติของเขาในการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมากที่สุดถึงสิบสามครั้ง; [12] มาร์ติน สกอร์เซซี ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เป็นครั้งที่ 10 และกลายเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อที่อายุมากที่สุดในประเภทนี้[a][13] เธลมา ชูนเมกกเกอร์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขาลำดับภาพยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่เก้า; [15] นักแต่งเพลง จอห์น วิลเลียมส์ ได้รับการเสนอชื่อเป็นครั้งที่ 54;[16] [17] และ วิลลี่ ดี. เบอร์ตัน ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงครั้งที่แปดในฐานะทีมงานเบื้องหลังภาพยนตร์[16] [18] [19]

นักแสดงสิบคนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกในปีนี้ [20] ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงการแสดงประกอบด้วยการแสดงจากนักแสดง LGBTQ+ อย่างเปิดเผยสามคน ได้แก่ โคลแมน โดมิงโก, โจดี ฟอสเตอร์ และลิลี แกลดสโตน[21] [22] แกลดสโตนยังกลายเป็นนักแสดงชาวอเมริกันพื้นเมืองคนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง [23]

นับเป็นปีที่ห้าติดต่อกันที่มีภาพยนตร์ยอดเยี่ยมซึ่งกำกับโดยผู้หญิงอย่างน้อยหนึ่งเรื่อง[24] [25] จัสติน ทริเอท ยังกลายเป็น ผู้หญิงคนที่แปดที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม[26] [27] โดยรวมแล้ว คู่รัก 6 คู่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขาเดียวกัน

 
คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้ชนะร่วมภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม
 
คิลเลียน เมอร์ฟี ผู้ชนะรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
 
เอมมา สโตน ผู้ชนะรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
 
รอเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ผู้ชนะรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
 
Da'Vine Joy Randolph ผู้ชนะรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
 
Justine Triet ผู้ชนะร่วมบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
 
Arthur Harari ผู้ชนะร่วมบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
 
Mstyslav Chernov ผู้ชนะร่วมภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม
 
โจนาธาน เกลเซอร์ ผู้ชนะรางวัลภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม
 
ฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้ชนะร่วมภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม
 
เวส แอนเดอร์สัน ผู้ชนะร่วมรางวัลภาพยนตร์เหตุการณ์สั้นยอดเยี่ยม
 
ลุดวิก เยอรันซอน ผู้ชนะรางวัลดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
 
บิลลี ไอลิช ผู้ชนะร่วมรางวัลเพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
 
Finneas O'Connell ผู้ชนะร่วมรางวัลเพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ผู้ชนะจะถูกระบุเป็นอันดับแรก โดยเน้นด้วย ตัวหนา และระบุด้วยกริชคู่ (‡) [28]

  • Oppenheimer – Emma Thomas, Charles Roven, and Christopher Nolan, producers  
    • American Fiction – Ben LeClair, Nikos Karamigios, Cord Jefferson, and Jermaine Johnson, producers
    • Anatomy of a Fall – Marie-Ange Luciani and David Thion, producers
    • บาร์บี้ – David Heyman, Margot Robbie, Tom Ackerley, and Robbie Brenner, producers
    • The Holdovers – Mark Johnson, producer
    • Killers of the Flower Moon – Dan Friedkin, Bradley Thomas, Martin Scorsese, and Daniel Lupi, producers
    • Maestro – Bradley Cooper, Steven Spielberg, Fred Berner, Amy Durning, and Kristie Macosko Krieger, producers
    • Past Lives – David Hinojosa, Christine Vachon, and Pamela Koffler, producers
    • Poor Things – Ed Guiney, Andrew Lowe, Yorgos Lanthimos, and Emma Stone, producers
    • The Zone of Interest – James Wilson, producer
  • Emma Stone – Poor Things as Bella Baxter  
    • Annette Bening – Nyad as Diana Nyad
    • Lily Gladstone – Killers of the Flower Moon as Mollie Burkhart
    • Sandra Hüller – Anatomy of a Fall as Sandra Voyter
    • Carey Mulligan – Maestro as Felicia Montealegre
  • Da'Vine Joy Randolph – The Holdovers as Mary Lamb  
  • Anatomy of a Fall – Justine Triet and Arthur Harari ‡
    • The Holdovers – David Hemingson
    • Maestro – Bradley Cooper and Josh Singer
    • May December – Screenplay by Samy Burch; Story by Samy Burch and Alex Mechanik
    • Past Lives – Celine Song
  • American Fiction– Cord Jefferson; based on the novel Erasure by Percival Everett ‡
    • Barbie – Greta Gerwig and Noah Baumbach; based on characters created by Ruth Handler
    • Oppenheimer – Christopher Nolan; based on the biography American Prometheus: The Triumph and Tragedy of J. Robert Oppenheimer by Kai Bird and Martin J. Sherwin
    • Poor Things – Tony McNamara; based on the novel by Alasdair Gray
    • The Zone of Interest – Jonathan Glazer; based on the novel by Martin Amis
  • The Zone of Interest (United Kingdom) – directed by Jonathan Glazer ‡
    • Io capitano (Italy) – directed by Matteo Garrone
    • Perfect Days (Japan) – directed by Wim Wenders
    • Society of the Snow (Spain) – directed by J. A. Bayona
    • The Teachers' Lounge (Germany) – directed by İlker Çatak
  • 20 Days in Mariupol– Mstyslav Chernov, Michelle Mizner, and Raney Aronson-Rath ‡
    • Bobi Wine: The People's President – Moses Bwayo, Christopher Sharp, and John Battsek
    • The Eternal Memory – Maite Alberdi
    • Four Daughters – Kaouther Ben Hania and Nadim Cheikhrouha
    • To Kill a Tiger – Nisha Pahuja, Cornelia Principe, and David Oppenheim
  • The Last Repair Shop– Ben Proudfoot and Kris Bowers ‡
    • The ABCs of Book Banning – Sheila Nevins and Trish Adlesic
    • The Barber of Little Rock – John Hoffman and Christine Turner
    • Island in Between – S. Leo Chiang and Jean Tsien
    • Nǎi Nai & Wài Pó – Sean Wang and Sam Davis
  • The Wonderful Story of Henry Sugar– Wes Anderson and Steven Rales ‡
    • The After – Misan Harriman and Nicky Bentham
    • Invincible – Vincent René-Lortie and Samuel Caron
    • Knight of Fortune – Lasse Lyskjær Noer and Christian Norlyk
    • Red, White and Blue – Nazrin Choudhury and Sara McFarlane
  • War Is Over! Inspired by the Music of John and Yoko – Dave Mullins and Brad Booker ‡
    • Letter to a Pig – Tal Kantor and Amit R. Gicelter
    • Ninety-Five Senses – Jared and Jerusha Hess
    • Our Uniform – Yegane Moghaddam
    • Pachyderme – Stéphanie Clément and Marc Rius
  • "What Was I Made For?" from Barbie – Music and lyrics by Billie Eilish and Finneas O'Connell ‡
    • "The Fire Inside" from Flamin' Hot – Music and lyrics by Diane Warren
    • "I'm Just Ken" from Barbie – Music and lyrics by Mark Ronson and Andrew Wyatt
    • "It Never Went Away" from American Symphony – Music and lyrics by Jon Batiste and Dan Wilson
    • "Wahzhazhe (A Song for My People)" from Killers of the Flower Moon – Music and lyrics by Scott George
  • The Zone of Interest– Tarn Willers and Johnnie Burn ‡
    • The Creator – Ian Voigt, Erik Aadahl, Ethan Van der Ryn, Tom Ozanich, and Dean Zupancic
    • Maestro – Steven A. Morrow, Richard King, Jason Ruder, Tom Ozanich, and Dean Zupancic
    • Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One – Chris Munro, James H. Mather, Chris Burdon, and Mark Taylor
    • Oppenheimer – Willie Burton, Richard King, Gary A. Rizzo, and Kevin O'Connell
  • Poor Things– Production Design: James Price and Shona Heath; Set Decoration: Zsuzsa Mihalek ‡
    • Barbie – Production Design: Sarah Greenwood; Set Decoration: Katie Spencer
    • Killers of the Flower Moon – Production Design: Jack Fisk; Set Decoration: Adam Willis
    • Napoleon – Production Design: Arthur Max; Set Decoration: Elli Griff
    • Oppenheimer – Production Design: Ruth De Jong; Set Decoration: Claire Kaufman
  • Oppenheimer– Hoyte van Hoytema ‡
    • El Conde – Edward Lachman
    • Killers of the Flower Moon – Rodrigo Prieto
    • Maestro – Matthew Libatique
    • Poor Things – Robbie Ryan
  • Poor Things– Nadia Stacey, Mark Coulier, and Josh Weston ‡
    • Golda – Karen Hartley Thomas, Suzi Battersby, and Ashra Kelly-Blue
    • Maestro – Kazu Hiro, Kay Georgiou, and Lori McCoy-Bell
    • Oppenheimer – Luisa Abel
    • Society of the Snow – Ana López-Puigcerver, David Martí, and Montse Ribé
  • Poor Things– Holly Waddington ‡
    • Barbie – Jacqueline Durran
    • Killers of the Flower Moon – Jacqueline West
    • Napoleon – Janty Yates and Dave Crossman
    • Oppenheimer – Ellen Mirojnick
  • Oppenheimer – Jennifer Lame ‡
    • Anatomy of a Fall – Laurent Sénéchal
    • The Holdovers – Kevin Tent
    • Killers of the Flower Moon – Thelma Schoonmaker
    • Poor Things – Yorgos Mavropsaridis
  • Godzilla Minus One– Takashi Yamazaki, Kiyoko Shibuya, Masaki Takahashi, and Tatsuji Nojima ‡

สถาบันจัดพิธีมอบรางวัลโกเวอเนอส์ประจำปีครั้งที่ 14 เมื่อวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 2024[b] โดยมีการมอบรางวัลดังต่อไปนี้:[29] [30] [31]

รางวัลเกียรติยศของสถาบันฯ

แก้

รางวัลมนุษยธรรมฌีน เฮอร์โชลต์

แก้

  • มิเชล แซทเทอร์ [32]

ภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงและได้รับมากกว่าหนึ่งรางวัล

แก้

ผู้มอบรางวัลและผู้แสดง

แก้

ต่อไปนี้เป็นการมอบรางวัลและการแสดงดนตรีในงาน[37] [38] [39] [40]

มีการไว้อาลัยผู้เสียชีวิตในส่วน "In Memoriam" เช่น อะเลกเซย์ นาวัลนืย, ไมเคิล แกมบอน, อลัน อาร์คิน, รีวอิจิ ซากาโมโตะ และ ทีนา เทอร์เนอร์ เป็นต้น[41]

 
จิมมี่ คิมเมล เป็นพิธีกรงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 96 ซึ่งนับเป็นครั้งที่สี่ของเขา

ในวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023 จิมมี คิมเมล ได้รับการประกาศให้เป็นพิธีกรของงาน เขากลับมาเป็นพิธีกรงานระกาศผลรางวัลออสการ์เป็นปีที่สี่และเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน[3] ในวันเดียวกันนั้นเอง ภรรยาของเขา มอลลี่ แม็กเนียร์นีย์ ได้รับการประกาศให้กลับมารับหน้าที่ผู้อำนวยการพิธีนี้ [3]

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2023 เอบีซี และสถาบันฯ ประกาศว่าเวลาเริ่มต้นของพิธีจะขยับขึ้นหนึ่งชั่วโมงเป็น 16:00 น. ตามเวลาแปซิฟิก การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้สามารถออกอากาศรายการไพรม์ไทม์ ได้ครึ่งชั่วโมง[42] การเริ่มต้นพิธีล่าช้าไปหกนาทีเนื่องจากการประท้วงสงครามอิสราเอล–ฮามาส นอกโรงละคร [43] [44] [45]

มีการประกาศผู้นำเสนอหลายชุดเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024[37] มีการประกาศการแสดงในอีกสองวันถัดมา[38] แม้ว่าการแสดง ของไรอัน กอสลิง ในเพลง " I'm Just Ken" จาก บาร์บี้ จะได้รับการรายงานโดย วาไรตี้ เมื่อสองวันก่อนหน้านี้ก็ตาม [46] หลังจากมีการประกาศผู้นำเสนอชุดแรก The Hollywood Reporter รายงานว่าสถาบันฯ จะรื้อฟื้นรูปแบบการนำเสนอยอดนิยมที่เคยใช้ในพิธีครั้งที่ 81 [47] โดยที่นักแสดงที่ได้รับรางวัลออสการ์ห้าคนสำหรับการแสดงนำและสนับสนุนได้ขึ้นเวทีร่วมกันเพื่อแนะนำผู้ได้รับการเสนอชื่อในพิธีปัจจุบันตามประเภทรางวัลที่ตนได้รับ[48] David Alan Grier ได้รับเลือกให้เป็นโฆษกของงาน[49]

ผู้ออกแบบงานสร้าง อลานา บิลลิงส์ลีย์ และมิสตี้ บัคลีย์ ออกแบบเวทีที่ "น่าดึงดูด เต็มไปด้วยสีสัน และเป็นกันเอง" ตลอดระยะเวลาเก้าเดือน ตามคำกล่าวของทั้งสองคน พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจาก พื้นที่ร่วมสมัย ที่ผู้คนสามารถ "พบปะ แลกเปลี่ยน สร้างสรรค์ได้ เหมือน พลาซ่า ในยุคปัจจุบัน" [50] เวทีใช้ "ปูนปลาสเตอร์เนื้อนุ่ม สีขาวนวล และโทนสีที่ดึงการออกแบบทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน" [50] ผู้กำกับพิธีต้องการให้เวทีรู้สึกดื่มด่ำ สร้างสรรค์ ใกล้ชิด อบอุ่น และนุ่มนวล[50] ตลอดทั้งพิธี เวทีได้เปลี่ยนการออกแบบเล็กน้อยเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ได้รับการเสนอชื่อ หมวดหมู่บทภาพยนตร์ประกอบด้วยภาพของ เครื่องพิมพ์ดีด จริง ในขณะที่หมวด การออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม จัดแสดงภาพของเครื่องแต่งกายที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงหลายรายการ[50]

ครั้งนี้เป็นปีแรกที่บังคับใช้กฎความหลากหลาย สำหรับสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2020 ภายใต้ความคิดริเริ่มของ Academy Aperture 2025 ทางสถาบันได้กำหนด "มาตรฐานการเป็นตัวแทนและการไม่แบ่งแยก" ซึ่งภาพยนตร์จะต้องปฏิบัติตามจึงจะสามารถแข่งขันในประเภทนี้ได้[51] สำหรับงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94 และ 95 (ภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี 2021 และ 2022) ผู้สร้างภาพยนตร์จำเป็นต้องส่งแบบฟอร์ม "Academy Inclusion Standards" ที่เป็นความลับเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น [52] มีมาตรฐานทั่วไปสี่ประการ ซึ่งภาพยนตร์จะต้องเป็นไปตามสองมาตรฐานจึงจะได้รับการพิจารณาให้เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: (ก) "การนำเสนอบนหน้าจอ ธีม และการเล่าเรื่อง"; (ข) "ความเป็นผู้นำเชิงสร้างสรรค์และทีมงานโครงการ"; (ค) "การเข้าถึงและโอกาสทางอุตสาหกรรม"; และ (ง) "การพัฒนาผู้ชม" [51]

ตามที่อธิบายโดย Alissa Wilkinson จาก Vox ในปี 2020 มาตรฐาน "โดยพื้นฐานแล้วแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่: มาตรฐานที่ส่งเสริมการเป็นตัวแทนที่ครอบคลุมมากขึ้น และมาตรฐานที่ส่งเสริมการจ้างงานที่ครอบคลุมมากขึ้น" [52] มาตรฐานนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้โอกาสในการจ้างงานมากขึ้นสำหรับกลุ่มเชื้อชาติและชาติพันธุ์ ผู้หญิง คน LGBTQ+ และบุคคลที่มีความบกพร่องทางกายภาพและ/หรือทางสติปัญญาที่ด้อยโอกาส[51]

ผลงานบ็อกซ์ออฟฟิสของผู้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

แก้

เมื่อมีการประกาศการเสนอชื่อ ภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมทำรายได้รวม 1.09 พันล้านดอลลาร์ในบ็อกซ์ออฟฟิสของอเมริกาและแคนาดาในขณะนั้น [53] บาร์บี้ เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในบรรดาภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดยมีรายรับจากบ็อกซ์ออฟฟิสในประเทศถึง 636 ล้านดอลลาร์ ออพเพนไฮเมอร์ มาเป็นอันดับสองด้วยรายได้ 327 ล้านดอลลาร์ ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม บาร์เบนไฮเมอร์ คิดเป็น 88% ของรายได้บ็อกซ์ออฟฟิสสะสมของผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก่อนที่จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง [54] ออพเพนไฮเมอร์ กลายเป็นผู้ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ทำรายได้สูงสุดนับตั้งแต่ ลอร์ดออฟเดอะริงส์: มหาสงครามชิงพิภพ ในงาน ประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 76 ในปี 2547 นอกจากนี้ยังกลายเป็นเรื่องแรกที่ทำรายได้มากกว่า 100 ล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศในประเทศในรอบทศวรรษนับตั้งแต่ แผนฉกฟ้าแลบ ลวงสะท้านโลก ใน งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 85[55]

พิธีนี้ได้รับการวิจารณ์เชิงบวกเป็นส่วนใหญ่[56] ด้วยการแสดงดนตรีเพลง "I'm Just Ken" และ "Wahzhazhe (A Song for My People)" จอห์น มูลานีย์ สรุปเนื้อเรื่องของ Field of Dreams ขณะมอบรางวัลสำหรับ เสียงยอดเยี่ยม, การปรากฎตัวในลักษณะเปลือยเกือบทั้งหมดของ จอห์น ซีนา เพื่อนำเสนอรางวัล การออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม และผู้ชนะการแสดงในอดีตที่นำเสนอผู้เข้าชิงรางวัลสาขาเดียวกับตนในปีปัจจุบัน ถือเป็นไฮไลท์ของพิธีนี้[57] [58] [59] อย่างไรก็ตาม หมวด In Memoriam ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำให้เสียสมาธิเกินไป ชื่อและใบหน้ามีขนาดเล็กและห่างไกลมากจนยากต่อการจดจำ[60] [61] [62] ในขณะที่ โจนาธาน เกลเซอร์ ผู้กำกับ The Zone of Interest ส่วนใหญ่ได้รับการยกย่องจากสุนทรพจน์รับรางวัลภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม ซึ่งเขาเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการโจมตีในฉนวนกาซา[63] กระนั้นเขาก็ถูกชาวอิสราเอลบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์ [64]

อัล ปาชิโน ผู้ได้รับมอบหมายให้มอบรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในช่วงท้ายของพิธี ถูกวิจารณ์เนื่องจากไม่ได้เสนอชื่อผู้เข้าชิงทั้ง 10 คนก่อนที่จะประกาศผู้ชนะ[65] ปาชิโนกล่าวสั้น ๆ เปิดซองจดหมาย จากนั้นประกาศอย่างเชื่องช้าว่าออปเพนไฮเมอร์เป็นผู้ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ท่วงท่าการเดินบนเวทียังทำให้ผู้ชมกังวลถึงสุขภาพของเขาอีกด้วย[66]

  1. ↑ การได้รับเสนอเข้าชิงของสกอร์เซซีในบทความนี้ นับเฉพาะในสาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นอกจากนั้นเขายังได้รับการเสนอชื่อในฐานะผู้เขียนบทและผู้อำนวยการสร้างด้วย โดยมีสถิติเป็นลำดับสามรองจากสปีลเบิร์กที่เข้าชิง 9 ครั้ง ชนะ 2 ครั้ง[13] และวิลเลียม ไทเลอร์ ที่เข้าชิง 12 ครั้ง ชนะ 3 ครั้ง[14]
  2. ↑ เดิมกำหนดจัดในวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023 แต่ได้เลื่อนออกไปเนื่องจากการประท้วงของผู้เขียนบทภาพยนตร์และนักแสดง
  1. ↑ 1.0 1.1 1.2 Davis, Clayton (April 25, 2023). "Oscars 2024: Academy Sets Nominations and Ceremony Dates". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 24, 2023. สืบค้นเมื่อ November 25, 2023.
  2. ↑ Hammond, Pete (October 17, 2023). "Raj Kapoor & Katy Mullan Named Executive Producers for 96th Oscar Show; Hamish Hamilton Set as Director". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 24, 2023. สืบค้นเมื่อ November 25, 2023.
  3. ↑ 3.0 3.1 3.2 Rose, Lacey (November 15, 2023). "Oscars: Jimmy Kimmel Back as 2024 Host". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 15, 2023. สืบค้นเมื่อ November 15, 2023.
  4. ↑ FitzPatrick, Hayley; Blackwelder, Carson; Jane Bernabe, Angeline (January 23, 2024). "Oscar Nominations 2024: Full list of nominees". ABC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2024. สืบค้นเมื่อ January 23, 2024.
  5. ↑ 5.0 5.1 "The 95th Academy Awards (2024) | Nominees". Academy of Motion Picture Arts and Sciences. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2024. สืบค้นเมื่อ January 23, 2024.
  6. ↑ Fleming, Mike Jr.; Hipes, Patrick (January 23, 2024). "Oscar Nominations: Diversified Voting Throws the Love Around as Oppenheimer Tops with 13, with Poor Things, Killers of the Flower Moon and Barbie Close Behind – Full List". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2024. สืบค้นเมื่อ January 23, 2024.
  7. ↑ Film, Guardian (2024-03-10). "Oscars 2024: the full list of winners". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2024-03-11.
  8. ↑ Hipes, Patrick (January 18, 2024). "Watch the 2024 Oscar Nominations Livestream". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 21, 2024. สืบค้นเมื่อ January 22, 2024.
  9. ↑ "Oscar Nominations 2024 List: Nominees by Category". ABC. January 23, 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2024. สืบค้นเมื่อ January 23, 2024.
  10. ↑ D'Alessandro, Anthony (January 23, 2024). "Barbenheimer Ongoing Brawl Extends Beyond Box Office to Oscar Nominations". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2024. สืบค้นเมื่อ January 23, 2024.
  11. ↑ King, Andrew (January 25, 2024). "With the Oscar Nominations in, There's No Chance Oppenheimer Loses Best Picture". TheGamer. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 27, 2024. สืบค้นเมื่อ January 26, 2024.
  12. ↑ "Steven Spielberg Receives Record 13th Oscar Nomination for Best Picture". A.frame. Academy of Motion Picture Arts and Sciences. January 23, 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2024. สืบค้นเมื่อ January 23, 2024.
  13. ↑ 13.0 13.1 Hibberd, James (January 23, 2024). "Martin Scorsese Nominated for Record 10th Director Oscar, Passing Steven Spielberg". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2024. สืบค้นเมื่อ January 23, 2024.
  14. ↑ Andreeva, Nellie (January 23, 2024). "John Williams & Martin Scorsese Make Oscar History as Oldest Nominees, Set Records for Most Noms". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2024. สืบค้นเมื่อ January 23, 2024.
  15. ↑ Desowitz, Bill (January 23, 2024). "2024 Oscars: Oppenheimer Dominates the Craft Nominations with 7". IndieWire. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 24, 2024. สืบค้นเมื่อ January 25, 2024.
  16. ↑ 16.0 16.1 White, Abbey; Perez, Lexy (January 26, 2024). "Oscars: America Ferrera, Colman Domingo, Lily Gladstone, and John Williams Among 2024 Nominee Milestones". The Hollywood Reporter. สืบค้นเมื่อ January 28, 2024.
  17. ↑ Hammond, Pete (January 23, 2024). "Bradley Cooper Reacts to Seven Oscar Nominations for Maestro, Including Three of His Own: 'It's Very Surreal'". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2024. สืบค้นเมื่อ January 23, 2024.
  18. ↑ Mix Staff (December 8, 2023). "Oppenheimer Audio Team Joins 'Mix Presents Sound for Film: Awards Season'". Mix. สืบค้นเมื่อ January 31, 2024.
  19. ↑ "Oppenheimer Sound Mixer Willie Burton Records the Sonic Thunder of Nolan's Biopic". Zaxcom. สืบค้นเมื่อ January 28, 2024.
  20. ↑ Thomas, Carly (January 23, 2024). "Cillian Murphy, Colman Domingo, Emily Blunt Among First-Time Oscar Nominees in Acting Categories". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 24, 2024. สืบค้นเมื่อ January 25, 2024.
  21. ↑ Davis, Clayton (January 23, 2024). "Oscars Diversity 2024: People of Color in Every Acting Category, Jodie Foster and Colman Domingo Make History and More". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2024. สืบค้นเมื่อ January 23, 2024.
  22. ↑ "Pride Guide: 15 LGBTQ+ Filmmakers and Artists on the Rise in 2023". A.frame. Academy of Motion Picture Arts and Sciences. June 16, 2023. สืบค้นเมื่อ February 26, 2024.
  23. ↑ Blyth, Antonia (January 23, 2024). "Killers of the Flower Moon[[:แม่แบบ:'s]] Lily Gladstone Makes History as First Native Actress of American Descent to Be Oscar Nominated". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2024. สืบค้นเมื่อ January 23, 2024.
  24. ↑ D'Alessandro, Anthony (January 23, 2024). "Female Filmmakers Set Oscar Nomination Record in Best Picture Category". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2024. สืบค้นเมื่อ January 25, 2024.
  25. ↑ Davis, Clayton (January 23, 2024). "Women Directors Have Three Best Picture Nominees, Setting Oscar Record". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 27, 2024. สืบค้นเมื่อ January 27, 2024.
  26. ↑ Rapold, Nicolas (October 13, 2023). "A marital murder mystery written by a real-life couple? They didn't kill each other". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ January 28, 2024.
  27. ↑ O'Kane, Caitlin (January 23, 2024). "Oscar nominations 2024: Justine Triet becomes 8th woman ever nominated for Best Director". CBS News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 24, 2024. สืบค้นเมื่อ January 25, 2024.
  28. ↑ "The 96th Academy Awards (2024) | Nominees and Winners". Academy of Motion Picture Arts and Sciences. สืบค้นเมื่อ March 11, 2024.
  29. ↑ Saperstein, Pat (September 6, 2023). "Governors Awards Move to January Amid Strikes". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 7, 2023. สืบค้นเมื่อ November 25, 2023.
  30. ↑ Hammond, Pete (January 10, 2024). "First Oscars of the Season Handed Out at 14th Governors Awards: Mel Brooks, Angela Bassett, Carol Littleton, Michelle Satter". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 11, 2024. สืบค้นเมื่อ January 11, 2024.
  31. ↑ Davis, Clayton (January 10, 2024). "John Mulaney Surprises Governors Awards as Host, Recalls Failed Audition for Maggie Gyllenhaal Movie as 'Young Cop'". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 10, 2024. สืบค้นเมื่อ January 11, 2024.
  32. ↑ 32.0 32.1 32.2 32.3 "The Academy to Honor Angela Bassett, Mel Brooks, and Carol Littleton with Academy Honorary Awards and Michelle Satter with the Jean Hersholt Humanitarian Award" (Press release). Oscars.org. June 26, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 26, 2023. สืบค้นเมื่อ November 25, 2023.
  33. ↑ Hipes, Mike Fleming Jr,Patrick; Jr, Mike Fleming; Hipes, Patrick (23 January 2024). "Oscar Nominations: Diversified Voting Throws The Love Around As 'Oppenheimer' Tops With 13, With 'Poor Things', 'Killers Of The Flower Moon' And 'Barbie' Close Behind – Full List". Deadline. สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  34. ↑ Moreau, Brent Lang,Jordan; Lang, Brent; Moreau, Jordan (23 January 2024). "Oscar Nominations 2024: 'Oppenheimer' Dominates With 13 Nods, 'Poor Things' Follows With 11". Variety. สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  35. ↑ Hipes, Erik Pedersen,Patrick; Pedersen, Erik; Hipes, Patrick (11 March 2024). "Oscar Scorecards: Wins By Film & Distributor". Deadline. สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  36. ↑ Moreau, Brent Lang,Jordan; Lang, Brent; Moreau, Jordan (10 March 2024). "'Oppenheimer' Reigns at Oscars With Seven Wins, Including Best Picture and Director: Full Winners List". Variety. สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  37. ↑ 37.0 37.1 Pedersen, Erik (February 26, 2024). "Oscars: Zendaya, Brendan Fraser, Michelle Yeoh, Nicolas Cage, Lupita Nyong'o & Al Pacino Among First Group of Presenters". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 26, 2024. สืบค้นเมื่อ February 27, 2024.
  38. ↑ 38.0 38.1 Pedersen, Erik (February 28, 2024). "Oscar Best Song Performers Set: Ryan Gosling, Billie Eilish, Jon Batiste, Becky G & More". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 28, 2024. สืบค้นเมื่อ February 28, 2024.
  39. ↑ Verhoeven, Beatrice (February 29, 2024). "Dwayne Johnson, Bad Bunny and Jennifer Lawrence Among Additional 2024 Oscar Presenters". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 29, 2024. สืบค้นเมื่อ February 29, 2024.
  40. ↑ Verhoeven, Beatrice (March 5, 2024). "Ryan Gosling, Ariana Grande, America Ferrera Round Out 2024 Oscars Presenters". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 5, 2024. สืบค้นเมื่อ March 5, 2024.
  41. ↑ Chasan, Aliza (2024-03-10). "Who did the Oscars 2024 In Memoriam include? Full list of those remembered at the Academy Awards". CBS News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2024-03-11.
  42. ↑ Hammond, Pete; Hipes, Patrick (November 30, 2023). "Oscars 2024 Ceremony Moves Up Start Time by an Hour; Abbott Elementary to Follow Telecast on ABC". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 30, 2023. สืบค้นเมื่อ November 30, 2023.
  43. ↑ "2024 Oscars A-lister red carpet arrivals, ceremony delayed by Israel-Hamas protests". Los Angeles Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2024-03-10. สืบค้นเมื่อ 2024-03-11.
  44. ↑ Jr, Mike Fleming (2024-03-10). "Security Snafus Complicate Oscar Arrivals". Deadline (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2024-03-11.
  45. ↑ Amatulli, Jenna (2024-03-11). "Oscars kicks off behind schedule as pro-Palestine protesters delay stars' arrivals". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2024-03-11.
  46. ↑ Malkin, Marc (February 26, 2024). "Ryan Gosling Will Perform 'I'm Just Ken' at the Oscars". Variety. สืบค้นเมื่อ February 29, 2024.
  47. ↑ Fallon, Kevin (March 7, 2023). "Bring Back the Oscars Acting Tributes That Made Me Cry, Dammit!". The Daily Beast. สืบค้นเมื่อ March 2, 2024.
  48. ↑ Feinberg, Scott (February 27, 2024). "Oscars: Five Past Winners Will Introduce Current Nominees in All Four Acting Categories (Exclusive)". The Hollywood Reporter. สืบค้นเมื่อ February 27, 2024.
  49. ↑ "David Alan Grier is the 'Voice of God' at the Oscars". EW.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  50. ↑ 50.0 50.1 50.2 50.3 Warner, Kara (March 6, 2024). "An Exclusive Early Look at the 2024 Oscars Set". Vanity Fair. สืบค้นเมื่อ March 6, 2024.
  51. ↑ 51.0 51.1 51.2 "Representation and Inclusion Standards". Oscars.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 15, 2023. สืบค้นเมื่อ February 15, 2023.
  52. ↑ 52.0 52.1 Wilkinson, Alissa (September 9, 2020). "The Oscars' new rules for Best Picture nominees, explained". Vox. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 15, 2023. สืบค้นเมื่อ February 15, 2023.
  53. ↑ Whitten, Sarah (23 January 2024). "Best-picture Oscar nominees 'Barbenheimer' account for 88% of the slate's box-office haul". CNBC (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  54. ↑ D'Alessandro, Anthony (23 January 2024). "'American Fiction', 'Poor Things' & 'Zone Of Interest' To Reap Oscar Halo Effect At Box Office; Best Pics At $2.7B WW, Down From 2023". Deadline. สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  55. ↑ McClintock, Pamela (11 March 2024). "Oscars: 'Oppenheimer' Lifts 20-Year Curse on Blockbusters Winning Best Picture". Yahoo Finance. สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  56. ↑ Patten, Dominic (11 March 2024). "Oscars TV Review: Jimmy Kimmel Packs A Punch On Trump & More As ABC & Producers Finally Make An Academy Awards For The 21st Century". Deadline. สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  57. ↑ Lowry, Brian (11 March 2024). "Oscar highlights: 'Oppenheimer' wins big, while Ryan Gosling and past winner cameos stole the show". CNN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  58. ↑ Fienberg, Daniel (11 March 2024). "Critic's Notebook: Busy and Eclectic Oscars 2024 Telecast Delivers Many Highlights (and a Few Lowlights)". The Hollywood Reporter. สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  59. ↑ "The best and worst moments from the 2024 Oscars". EW.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  60. ↑ Lawler, Kelly. "The 2024 Oscars were worse than bad. They were boring". USA TODAY. สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  61. ↑ Richmond, Ray (11 March 2024). "2024 Oscars Review: In uneven but often lively ceremony, all roads lead to Ken". GoldDerby. สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  62. ↑ Furnell, Hannah (10 March 2024). "Furious Oscars viewers slam In Memoriam segment for being 'unwatchable'". Express.co.uk (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  63. ↑ Pulver, Andrew; Shoard, Catherine (11 March 2024). "'We stand here as Jewish men who refute the Holocaust being hijacked': Jonathan Glazer calls for end to Gaza attacks at Oscars". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  64. ↑ "Israel 'Disgusted' After Zone Of Interest Director Jonathan Glazer's Gaza Statement At The Oscars". TimesNow (ภาษาอังกฤษ). 11 March 2024. สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  65. ↑ https://www.hollywoodreporter.com/movies/movie-news/al-pacino-skips-announcing-best-picture-nominees-2024-oscars-1235848679/
  66. ↑ https://fandomwire.com/he-was-tired-he-is-83-al-pacino-makes-a-rare-oscar-mistake-while-announcing-oppenheimer-as-the-best-picture/

ทรัพยากรอื่น